จากบทความตอนที่แล้วของ “อิสตันบูลนี่นี้ใครครอง เดอะ ซีรี่ส์ – Race to win Turkish Süper Lig EP. 1/2” (อ่านย้อนหลัง คลิก) เราได้พูดถึง ม้ามืด อิสตันบูล บาซัคเซฮีร์ ที่ยืนหยัดอยู่ในอันดับ 3 ของฟุตบอลลีกตุรกี และ กาลาตาซาราย แชมป์ลีกสูงสุดตุรกี 20 สมัย ซึ่งรั้งตำแหน่งจ่าฝูงของลีกตุรกีอยู่ในเวลานี้ ในขณะที่การแข่งขันขับเคี่ยวกันมาอย่างยาวนาน 29 นัดแล้ว 

ตอนที่ 2 ตอนจบของ เดอะ ซีรี่ส์ นี้ เราจะมาทำให้ความเดือดของ ลีกตุรกี นั่นพุ่งพล่านขึ้นไปอีก เพราะยังเหลือพี่บิ๊กอิสตันบูลอีก 2 ทีม ที่สถานการ์กำลังเข้มข้ม ไม่แพ้กัน!!!




พี่บิ๊กรายต่อมาก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เบซิคตัส แชมป์เก่าปีที่แล้ว…ผู้นี้นี่เอง (ใส่ซาวนด์ทีวีแช้มเปี้ยนเพื่ออรรถรสในการอ่าน) เจ้าของแชมป์ลีกตุรกี 2 สมัยล่าสุด จากการกุมบังเหียนของ เซนอล กูเนส โค้ชผู้มากประสบการณ์ชาวตุรกีที่เคยพาทีมบ้านเกิดไป คว้าอันดับสามฟุตบอลโลก ปี 2002 บนดินแดนเอเชียมาแล้ว และยังย้ำความสุดยอดของเจ้าตัวไปอีก กับผลงานในการพาทีมอย่าง แทร็บซอนสปอร์ ให้ก้าวขึ้นมาลุ้นแชมป์กับเหล่าบิ๊กทรีแห่งอิสตันบูล แม้สุดท้ายจะประสบความสำเร็จสูงสุดแค่การเป็นรองแชมป์ในฤดูกาล 2011-2012 และนั่นก็เพียงพอแล้วกับการการันตีฝีมือของเฮดโค้ชมากประสบการณ์รายนี้

ด้วยชื่อชั้นของกุนซืออย่าง กูเนส เขาจึงพา “ทัพอินทรีดำแห่งอิสตันบูล” กลับมาเป็นแชมป์ในรอบ 7 ปี หลังจากทีมนั้นต้องห่างเหินจากการเป็นแชมป์ลีก นับตั้งแต่ปี 2009 ต่อเนื่องจากการคว้าแชมป์ลีก 2 สมัยติดกัน มาในซีซั่นนี้ เบซิคตัส ของ เซนอล กูเนส ก็ยังคงออกตัวแรงเช่นเคย จัดการเปิดหัวด้วยชัยชนะ 4 เกมรวด สมราคาแชมป์เก่าและเต็งแชมป์ในฤดูกาลที่กำลังโม่แข้งกันอยู่ในปัจจุบัน

จากขุมกำลังที่เปลี่ยนถ่ายกันมาจากชุดแชมป์ ในปีนี้ตัวหลักๆ อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา ไม่ว่าจะเป็น เซงค์ โตซุน (เพิ่งย้ายไปอยู่กับ เอฟเวอร์ตัน ช่วงตลาดหน้าหนาว มกราคม ที่ผ่านมา) ดาวซัลโวของทีมซีซั่นก่อน ปีกสองข้างมากประสบการณ์ ไรอัน บาเบิ้ล และ ริคาร์โด้ กวาเรสม่า รวมไปถึงขุมกำลังดาวรุ่งฝีเท้าฉกาจ อย่าง อันแดร์สัน ทาลิสก้า กับ โอกูชาน เออซยาคุป

และถึงแม้จะต้องเสีย แว็งซองต์ อาบูร์บาร์ก้า จากการหมดสัญญายืมตัวส่งกลับไปอยู่ ปอร์โต้ แต่ทีมก็ไปคว้า อัลบาโร่ เนเกรโด้ เข้ามาแทนเพื่อสานต่อหน้าที่ถล่มประตูคู่แข่งให้ทีมต่อไปในซีซั่นนี้

แต่ทว่า จุดเปลี่ยนแรก ของ เบซิคตัส ในซีซั่นนี้คือการที่ทีมเริ่มมีผลงานการสะดุดในช่วงที่มีโปรแกรมแชมเปี้ยนลีกเข้ามาแทรก ทำให้ทีมเริ่มออกอาการสะดุดในลีก จากการต้องคอยสับเปลี่ยนนักเตะหมุนเวียนผลัดกันลงเล่นทั้งในเกมส์ลีก และบอลถ้วยใหญ่ของยุโรปนี้ แม้จะไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะเป็นการได้สิทธิ์ของแชมป์ลีกในประเทศ ไปเตะถ้วยบิ๊กเอียร์เป็นฤดูกาลที่ 2 ติดต่อกัน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า “พญาอินทรีแห่งอิสตันบุล” ยังคงต้องใช้เวลาในการปรับตัว หลังจากที่เตะถ้วยนี้ครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2008 หรือย้อนกลับไปเกือบ 10 ปีเลยทีเดียว แต่ด้วยความเป็น “เบซิคตัส” ของ เบซิคตัส ทีมก็ยังสามารถผ่านเข้าไปเล่นในรอบน็อคเอ้าท์ได้ หลังจากเร่งเครื่องคว้าอันดับ 2 ในรอบแบ่งกลุ่ม แต่การจับฉลากเข้าไปเจอกับยักษ์ตัวเอ้อย่าง บาเยิร์น มิวนิค ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย นั้นก็ทำให้เส้นทางของทีมในรายการนี้นั้นจบลงเพียงแค่ในรอบนี้โดยปริยาย

และ อีกหนึ่งจุดเปลี่ยน สำคัญคือ การขาย เซงค์ โตซุน ไปให้กับ เอฟเวอร์ตัน ในช่วงตลาดหน้าหนาว! ในขณะที่การมาแทนที่ของ เนเกรโด้ ถึงแม้จะน่าตื่นเต้นก็จริง แต่เจ้าตัวก็ยังทำผลงานไม่ได้อย่างที่หวัง คงยังต้องปรับตัวกับลีกตุรกีไปอีกสักพัก ทำให้ภาระในการถล่มตาข่ายไปตกอยู่ที่แผงมิดฟิลด์ซะเป็นส่วนใหญ่ อย่าง บาเบิ้ล และ ทาลิสก้า โดยทั้งคู่ช่วยกันกดไปคนละ 12 ประตู นำเป็น ดาวซัลโว ร่วมของทีมอยู่ในขณะนี้ รวมกับคนอื่นๆ ช่วยกันยิงกระจายๆ กันไป…นี่ถ้า โตซุน ยังอยู่จะขนาดไหน?!

สถานการณ์ปัจจุบันของ เบซิคตัส กำลังจะเข้าสู่เกมส์ที่ 30 ถ้าทีมสามารถเก็บ 3 แต้มได้ตามเป้าในการเจอกับ เยนิ มาลัตย่า จุดเปลี่ยนสำคัญก็จะเหมือนกับจ่าฝูง กาลาตาซาราย ในเกมที่ทั้งคู่ต้องโคจรมาฟาดฟันกันเอง! แม้จะเป็นเกมที่ยากของ เบซิคตัส เมื่อมองจากสถิติในรังเหย้าของ กาลาตาซาราย ในปีนี้ แต่ในเกมดาร์บี้ ไม่เคยมีเกมไหนง่ายอยู่แล้ว และถ้า เบซิคตัส ยังอยากรักษาแชมป์ และคว้าถ้วยไว้ในอ้อมอก 3 ปีติดแล้วล่ะก็…

 

มีทีเด็ดไม้ตายอะไรควรจะงัดออกมาใช้ให้หมดในเกมส์นี้เนี่ยล่ะครับ

เอาล่ะครับ ผ่านไปแล้ว สามทีม ตอนนี้เดินทางกันมาถึงทีมอันดับที่ 4 ที่ติดสอยห้อยตามใน “อิสตันบูลนี่นี้ใครครอง” เดอะ ซีรี่ส์ กันแล้วนะครับ ซึ่งหากดูจาก ตารางคะแนน แต่ละทีมสามารถแซงสับเปลี่ยนตำแหน่งกันได้ทุกเกมใน 5 นัดที่เหลือต่อจากนี้

ลีกตุรกี

 

ทีมพี่บิ๊กทีมสุดท้าย เฟเนร์บาเช่ ยักษ์ใหญ่อีกทีมจาก อิสตันบูล ทีมสุดท้ายที่เราจะพูดถึงในคอลัมน์ฟุตบอลนี้ นำทัพมาด้วยอดีตกองหลัง ‘หงส์แดง’ ลิเวอร์พูล อย่าง มาร์ติน สเคอร์เทล ที่รับบทบาทเป็นปราการหลังตัวหลัก และมี โวลคาน เดมิเรล ผู้รักษาประตูตัวเก๋าเป็นกัปตันทีมด้วยศักดิ์ศรีดีกรีแชมป์ 19 สมัย นั้นไม่ยอมที่จะตกขบวนลุ้นแชมป์ลีกที่เข้มข้นที่สุดฤดูกาลนึงหนนี้แน่นอน

สำหรับซีซั่นนี้ขุนพล ‘เดอะ คานารี่ส์’ ของ ไอยคุต โคชามัน กว่าจะตั้งหลักได้ก็ปาเข้าไปเกือบจะกลางฤดูกาล หลังจากผลงานสุดย่ำแย่ในช่วงออกสตาร์ต ตุปัดตุเป๋ไปไกลถึงกลางตาราง แต่ โคชามัน ก็ปลุกเร้าลูกทีม มีการเปลี่ยนแท็คติก ตัวนักเตะ จนเริ่มจูนกันติด และช่วยกันพาทีมเข้าเบรค ไม่แพ้ใครถึง 23 นัดติดต่อกันทุกรายการ ก่อนสถิติจบลงด้วยน้ำมือของ แชมป์เก่าคู่ปรับร่วมเมือง เบซิคตัส นั่นเอง

ในช่วงที่พวกเขาชนะติดๆ กัน บวกกับที่หัวแถวเริ่มมีการสะดุดกันบ้างเป็นพักๆ ผลงานที่กล่าวไปก่อนหน้าก็เพียงพอแล้วที่ทำให้ เฟเนร์บาเช่ กลับขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 4 และไล่จี้จ่าฝูง กาลาตาซาราย เหลือเพียง 3 แต้มเท่านั้น ซึ่งช่วงที่ทีมผลงานไม่ค่อยดี หนึ่งสาเหตุหลัก ๆ มาจากเหล่าบรรดากองหน้าของทีม ที่ทำประตูรวมกันเพียงแค่หยิบมือ รวมกันเพียงแค่ 13 ประตู น้อยกว่า บาเฟติมบี้ โกมิส (26) ดาวซัลโวของลีก และ กาลาตาซาราย ถึงสองเท่า ไล่ไปตั้งแต่ โรแบร์โต้ โซลดาด้า (6), แฟร์นันเดา (5) และหอกตัวยืม วินเซนต์ แยนเซ่น (2) ไม่มีคนไหนยิงประตูแตะหลักสิบกันเลยซักคน

แต่ยังดีที่ในซีซั่นนี้ ชูเลียโน่ มิดฟิลด์จอมทัพที่เพิ่งย้ายมาจาก เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ในซีซั่นนี้ รับบทพระเอกของทีมโชว์ฟอร์มฮอตกระหน่ำไปถึง 13 ประตู จากการลงเล่น 26 นัด ประสานงานร่วมกับตัวเก๋าที่มีอยู่อย่าง มาติเยอ บัลบูเอน่า (5) , เมห์เมต โทปาล (2), อัลเปอร์ โปทุค (3) และสองกองกลางหน้าใหม่ โรมัน นอยสเต็ดเตอร์ (3) กับ นาบิล ดิราร์ (3)

 

สถานการณ์ที่ทีมห่างจากจ่าฝูงเพียงแค่ 3 คะแนน กับเกมส์ที่ยังเหลืออีก 5 นัด ก็ถือว่าโอกาสการลุ้นแชมป์นั้นยังเปิดกว้างอยู่สำหรับ เฟเนร์บาเช่ แต่ทว่าถ้าพูดกันตามจริง งานของพวกเขานั้นยากที่สุด จากในบรรดาทุกทีมในกลุ่มลุ้นแชมป์ด้วยกัน เพราะมันคือการที่ เฟเนร์บาเช่ ต้องชนะทุกนัดที่เหลือ และยังต้องภาวนาให้ กาลาตาซาราย, เบซิคตัส และ บาซัคเซฮีร์ พลาดเกมส์ที่เหลือด้วยกันทั้งหมด เรียกได้ว่า แช่งทีมเดียวไม่พอ ต้องแช่งถึงสามทีม…




ทุกเกมส์ที่เหลือ จากซีซั่นที่กำลังจะปิดฉากลงในเร็วๆ นี้ เชื่อว่า 4 ทีมลุ้นแชมป์จากอิสตันบูล 3 ยักษ์ใหญ่ พ่วงด้วยอีก 1 ม้ามืด จะทำให้ลีกตุรกีนั่นลุกเป็นไฟ ทุกทีมหวดกันไฟแล่บอย่างแน่นอน ไม่ว่าใครจะแรงตอนต้น บู่ช่วงสตาร์ท หรือมีออกทะเลกันไปบ้างในช่วงกลางต้นฤดูกาล แต่ช่วงโค้งสุดท้ายใน 5 เกมส์ที่เหลือนี้ ทุกทีมมีเพียงมิชชั่นเดียว คือ กระทืบคันเร่งให้สุดแรงเกิด โดยอย่าเพิ่งไปสนผลการแข่งขันของคนอื่น

 

4 สโมสรกับถ้วยแชมป์เพียง 1 ใบในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็นใครที่ก้าวขึ้นไปบนบัลลังก์ พวกเราแฟนบอลนั้นต่างเต็มอิ่มไปกับการขับเคี่ยวกันอย่างสุดมันส์ ของการแข่งขันที่สุดดุเดือดลีกนึงในยุโรป และเฝ้าติดตามจนถึงวินาทีสุดท้ายของการต่อสู้ครั้งนี้และไม่ว่าทีมใดจะได้แชมป์ ถ้วยใบนี้ก็ยังคงอยู่ที่อิสตันบูล!

Race to Win : Turkish Süper Lig  –  “อิสตันบูลนี่นี้ใครครอง”

 


#ย้อนอ่าน Race to Win : Turkish Süper Lig  –  “อิสตันบูลนี่นี้ใครครอง” ตอนที่ 1 คลิก


 

iReallyLikeFootball.com เว็บไซต์ คอลัมน์ฟุตบอล บทความฟุตบอล ข่าวฟุตบอล สร้างสรรค์ผลงานจากความตั้งใจ โดยกลุ่มคนที่รักและชอบฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจ

“Football can make a friend, can make a life”

หากต้องการติดต่อสอบถามหรือขอลงโฆษณา email มาที่ ireallylikefootball@gmail.com
หรือติดต่อเราได้ที่ http://www.ireallylikefootball.com/contact