ย้อนไปเมื่อ 18-19 ปีที่แล้ว (นานจัง) ผมยังนั่งกด CM อยู่บ้าน จำได้ว่าสมัยนั้นติด CM มาก เล่นได้ทั้งวัน ยิ่งวันไหนดูลิเวอร์พูลแล้วไม่ได้ดั่งใจ ผมจะมานั่งจัดทีมลิเวอร์พูลของผมเอง ผมเล่นจนโอเว่นที่อายุเพิ่ง 19-20 ปีในเกมส์ แก่จนแขวนสตั๊ด..
แต่ลิเวอร์พูลใน CM เล่นกี่เซฟ ก็ยังไม่ประทับใจ อาจเป็นเพราะเงินทุน บอร์ด และตัวผู้เล่น ในตอนนั้น ยังไม่เปรี้ยงเท่าไหร่ แต่มีอีกทีมนึงที่ผมเลือกเล่น เล่นแล้วสนุก ตื่นเต้น ทีมนั้นคือ พญาหมาป่าแห่งกรุงโรม
นึกถึงลีกอิตาลีในยุคนั้น ทุกคนคงจำได้ว่ามีนักเตะระดับโลกและทีมชั้นนำของยุโรปมากมาย เช่น ซีดาน-ยูเวนตุส เชฟเชนโก้-มิลาน โรนัลโด้-อินเตอร์ รายชื่อพวกนี้ถือเป็นระดับเวิลด์คลาสทั้งสิ้น ทำให้ใน CM นักเตะพวกนี้มีค่าตัวมหาศาล หากเลือกมาเล่นแล้วไม่ขายเอาเงิน ก็เลือกใช้เป็นตัวหลักของทีมได้ ฐานะทางการเงินของทีมร่ำรวย พัฒนาทีมได้ไม่ยาก
แต่สำหรับผม การไปเล่นทีมใหญ่ที่มีสตาร์อยู่ในทีม หรือทีมรวยอยู่แล้วมันจะไปสะใจอะไร สู้เล่นทีมกากๆ หรือทีมกลางๆ ที่มีแนวโน้มว่าจะประสบความสำเร็จได้ น่าจะท้าทายกว่า ซึ่งผมพบว่าโรม่ามีความท้าทายนั้นอยู่ เพราะฐานะทางการเงิน บอร์ดบริหาร ระดับผู้เล่นในทีม ถือเป็นทีมกลางๆ แต่กลับมีองค์ประกอบโดยรวมสมบูรณ์แบบ และในโลกของความจริง โรม่าในปี 2000-2001 นั้นสามารถคว้า สคูเด็ตโต้ ได้สำเร็จ จากการคุมทีมของ ฟาบิโอ คาเปลโล่
ที่สำคัญทีมชุดนั้นมีผู้นำทัพคนสำคัญอย่าง ฟรานเชสโก้ ต๊อตติ ทำให้สามารถยกระดับทีมและนักเตะขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว ยิ่งไปกว่านั้นทุกคนคงทราบดีว่านอกจากคว้าแชมป์ลีกแล้ว โรม่าในปีนั้นมีนักเตะคนนึงยิงไป 20 ประตูในบอลลีก ทั้งที่เพิ่งย้ายมาปีแรก นักเตะผู้บ้าระห่ำ ตีนระเบิด ดุดัน และห้าวหาญ ซึ่งเป็นอีกเหตุผลนึงที่ทำให้โรม่าถูกหยิบมาเล่นใน CM 2000-2001 นักเตะคนนั้นคือ กาเบรียล บาติสตูต้า
สำหรับ CM ภาคนี้เมื่อเริ่มเกมส์ โรม่าจะใช้แผนการเล่น 3-4-1-2 ซึ่งเป็นแผนการเล่นตามโลกความจริงที่ คาเปลโล่ กุนซือหน้าหงิก จัดระบบไว้ และปรากฎว่ามันลงตัวสุดๆ พอเหมาะพอเจาะกับสภาพแวดล้อมและตัวผู้เล่นของทีมในขณะนั้น
โดยเริ่มต้นที่ โกลด์โนเนมนาม อันโตนิโอลี่ แต่ด้วยความร้อนแรงของเจ้าตัวและโรม่าในยุคนั้น จากโกลด์โนเนมก็พลอยทำให้เจ้าตัวติดทีมชาติในตอนนั้นเป็นที่เรียบร้อย
ตามด้วยกองหลังที่สุดจะลงตัวในแผนกองหลังสามคน โดยกองหลังตัวกลางจะเป็น อัลดาเอีย หรือ ซาโก้ ก็ได้ คงเส้นคงว่าตลอดทั้งฤดูกาล และประกบฝั่งขวาและซ้ายด้วย โจนาธาน เซบิน่า และ วอลเตอร์ ซามูเอล ตามลำดับ โดยรายหลังนี่ถือว่าโรม่าพาเค้าแจ้งเกิดเลยทีเดียว โดดเด่นในสโมสรและทีมชาติจนใกล้เคียงระดับโลกในตอนนั้น
3-4-1-2 ของ คาเปลโล่ จะใช้การครอสบอลจากฟูลแบ็คเป็นหลัก โดยฟูลแบ็คฝั่งขวา ต้องบอกเลยว่าเป็นระดับโลกของจริง คาร์ฟู ทีมชาติบราซิล ผู้ชูถ้วยฟุตบอลโลกอันทรงเกียรติที่สุดมาแล้วในฐานะกัปตันทีม สำหรับฝีเท้าคงไม่ต้องบรรยายเยอะ โคตรครบเครื่องที่สุดแล้วในตำแหน่งแบ็คขวา
ทางฝั่งซ้าย จะบอกว่าโรม่าสร้างชื่อให้เค้าก็ไม่ผิด ฟูลแบ็คฝั่งซ้าย ติดทีมชาติเป็นที่เรียบร้อยในยุคนั้น แวนซอง ก๊องเดอล่า สานต่อตำนานแบ็คซ้ายชุดได้แชมป์โลก ฟร็อง’ 98 จาก บิเซนเต้ ลิซ่าลาซู
ขยับขึ้นมาที่มิดฟิลด์กลางสองตัว แผนของคาเปลโล่จะใช้มิดฟิลด์ที่เด่นเกมรับทั้งสองตัว เอเมอร์สัน หรือ ซาเนตติ ก็ได้ในตอนนั้น สลับกันลงได้ไม่มีผลอะไร แต่ที่ขาดไม่ได้คือ ดาเมียโน่ ตอมมาสซี่ จริงๆ แล้ว ตอมมาสซี่ทำผลงานในสโมสรได้ดีจนเป็นที่น่าจับตา ส่งผลให้ติดทีมชาติในตอนนั้น แต่ก็ยังไม่ดีพอที่ ดีโน่ ซอฟฟ์ จะพาไปลุยยูโร 2000 ที่ฮอลล์แลนด์-เบลเยี่ยม เพราะตัวเลือกในตอนนั้นมีทั้ง อันโตนิโอ คอนเต้ มาสสิโม่ อัมโบรซินี่ และ ดิมิทริโอ้ อัลแบตินี่
ตำแหน่งที่สำคัญที่สุดในแผนการเล่นนี้ นั้นคือ ศูนย์กลางของเกมรุก เพลย์เมคเกอร์คนสำคัญ กัปตันทีมเจ้าชายหมา ฟรานเชสโก้ ต๊อตติ ต๊อตติคอยประสานงานรับบอลจากเกมรับและสร้างสรรค์มิติในเกมรุก เค้ามีส่วนช่วยเป็นอย่างมากในการพาโรม่าได้แชมป์ในปีนี้ และยังเป็นหัวใจหลักของทีม เป็นขวัญใจของ โรมานิสต้า จนถึงปัจจุบันเลยก็ว่าได้
มาถึงตำแหน่งตัวจบสกอร์ แน่นอนว่า คาเปลโล่ มองตำแหน่งเพชรฆาตจอมสังหารประตูให้แก่ บาติโกล กาเบรียล บาติสตูต้า เป็นตัวหลัก บาติโกลจึงตอบแทนด้วยการซัดไป 20 ประตู ทั้งที่เป็นฤดูกาลแรกที่เล่นให้โรม่า หลังจากที่เพิ่งย้ายมาจากฟิออเรนติน่า
สำหรับคู่หูของบาติโกล ส่วนใหญ่คาเปลโล่ให้โอกาส มาร์โค เดลเวคคิโอ้ มากกว่า วิเชนโซ่ มอนเตลล่า เพราะเดลเวคคิโอ้มีความวูบวาบ อยู่ถูกที่ถูกเวลา แผนนี้หากใช้บาติโกลเป็นตัวหลัก ตัวซัพพอร์ตจึงเป็นเดลเวคคิโอ้ที่ทำได้ดีกว่ามอนเตลล่า
ในเกมส์ฤดูกาลแรกผมจับโรม่าคว้าแชมป์ในเกมส์เช่นกัน โดยไม่เปลี่ยนผู้เล่นเลยแม้แต่คนเดียว และยังยึดแผนตามความจริงที่คาเปลโล่เซ็ตไว้ แต่ฤดูกาลต่อมานักเตะบางคนเริ่มโรยรา และบางคนก็งอแง จนผมต้องปรับมาเล่นแบบ 4-2-1-3 ตอนนั้นจำได้ว่าขาย ซาโก้ ทิ้ง แต่กองหลังที่เหลือยังเหมือนเดิม ผมปรับมาใช้ยืนหลังสี่คน มิดฟิลด์ตัวรับผมเลือก เอเมอร์สัน เพราะในแผนนี้เค้าเล่นรับได้ดีกว่า ตอมมาสซี่ และมีอัตราการแทคเกิ้ลต่อแมตซ์สำเร็จสูงมาก ส่วน ตอมมาสซี่ ให้ขยับสูงขึ้นมาหน่อยเพื่อเป็นตัวเชื่อมเกม ในตัวแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลาง แต่สุดท้ายก็ขายทิ้ง และสอยเจอราร์ดมาจากลิเวอร์พูลด้วยความภาคภูมิใจส่วนตัว
เพลย์เมคเกอร์ยังคงเป็นต๊อตติ ส่วนหน้าสามตัว ตัวกลางยืนเป็นตัวหลักในบทบาทของตัวจบสกอร์ ยังไงต้องเป็นบาติโกลแน่นอน ฝั่งซ้ายผมสอย เตเบซ ที่ยังหนุ่มยังแน่นมาจาก โบค่า จูเนียร์ ตอนนั้นเตเบซอายุยังไม่ 20 เลยด้วยซ้ำ แต่เก่งโคตร ถือว่าเป็นตัวลับในภาคนั้นจริงๆ และฝั่งขวาผมจัดเจ้าเด็กน้อยจาก ซานโตส วันเดอร์คิด โรบินโญ่ ซึ่งถือว่าเป็นตัวลับเช่นกัน ทั้งเร็วทั้งคม
แต่มาตอนหลังโรบินโญ่งอแงบ่อย ขอขึ้นบัญชีย้ายบ้าง ไม่พอใจบ้าง จนในที่สุดต้องขาย พูดตอนนี้แล้วก็ขำ ทำไมคนสร้าง CM ถึงรู้ว่าในอนาคตของตอนนั้นโรบินโญ่มันจะขี้งอแงจริงๆ ซึ่งเหมือนเรื่องจริงเลยทีเดียว และผมก็ได้ ฌอน ไรท์ ฟิลลิปป์ มา ถือว่าเก่งไม่แพ้กันเลย ต่อมาจึงจัด สจ๊วต ดาวนิ่ง มาอีกคน เอาไว้เป็นอะไหล่ให้เตเบซ ซึ่งปีกอังกฤษสองคนนี้โคตรเก่งในตอนนั้น แล้วตอนนี้ละ ?!!? ฮ่าๆ
เล่นไปได้สองฤดูกาล ผมก็ซื้อ มอริเอนเตส มายืนหน้าเป้า แทนบาติโกล ที่แก่ตัวลง มอริเอนเตสนี่ก็ยิงถล่มทลายเหลือเกินครับ ต่อจากนั้นก็ดำเนินเกมส์ไปเรื่อยๆ เล่นโรม่าไปไกลมาก หลายฤดูกาล อะไรๆ ก็ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไป คนที่รู้จักก็เริ่มจะแขวนสตั๊ดกันแล้ว สุดท้ายก็หมดสนุกไปโดยปริยาย
ยิ่งเล่าก็นึกถึงอดีตครับ และนึกถึงฟุตบอลคลาสสิค สมัยยุค 90s, 2000 เพราะในปัจจุบันผมก็แทบจะไม่ได้เล่นเกมส์แล้ว ป่านนี้ CM คงมีอะไรมากกว่าเป็นตัวหนังสือวิ่งๆ แล้วล่ะ ได้ยินแว่วๆ มาว่ามีภาพกราฟฟิกตัวผู้เล่นขณะแข่งขันด้วย แต่จริงๆ แบบเดิมก็คลาสสิคดีนะ สะใจทุกครั้งเวลาตัวอักษรกระพริบๆๆๆๆ (ยิงประตูได้)…ยังไงก็จบกันไปดื้อๆ แบบนี้ละกันครับ ถือว่ามาพูดขุดเรื่องเกมส์ที่คนรักฟุตบอลอย่างเราๆ ไม่มีใครไม่เล่น ไม่รู้จัก อย่าง CM หรือ FM ก็แล้วกัน
ireallylikefootball.com เว็บไซต์ คอลัมน์ฟุตบอล บทความฟุตบอล สร้างสรรค์ผลงานจากความตั้งใจ โดยกลุ่มคนที่รักและชอบฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจ
“Football can make a friend, can make a life”
หากต้องการติดต่อสอบถามหรือขอลงโฆษณา email มาที่ ireallylikefootball@gmail.com
หรือติดต่อเราได้ที่ http://www.ireallylikefootball.com/contact
